โรคแพนิค คืออะไร?
โรคแพนิค (Panic Disorder) คือภาวะที่ร่างกายและจิตใจตอบสนองอย่างรุนแรงต่อความกลัวหรือความกังวล แม้ในสถานการณ์ที่ไม่อันตรายจริง ๆ โดยหลายคนอาจรู้สึกว่าเป็น “โรคหัวใจ” หรือ “รู้สึกเหมือนกำลังจะเสียชีวิต” จนสร้างความหวาดกลัวซ้ำ ๆ ในชีวิตประจำวัน ความจริงแล้วโรคแพนิคเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ และไม่ใช่เรื่องน่าอาย หรือแปลว่าคุณ “คิดไปเอง” หรือ “อ่อนแอ” อย่างที่ใครบางคนอาจเข้าใจผิด
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า ความเครียดมีความสัมพันธ์กับการทำงานของสมองและร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิด อาการแพนิคได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพใจในระยะยาว เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้าใจและดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง หวังดีคลินิก จึงจัดทำบทความนี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันความรู้และแนวทางการดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับความเครียดและอาการแพนิคได้อย่างมั่นใจ
อาการของโรคแพนิค
อาการแพนิคมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง โดยแต่ละคนอาจมีอาการแตกต่างกัน แต่ที่พบบ่อย เช่น
- หัวใจเต้นแรง แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม → หลายคนคิดว่าเป็นโรคหัวใจ โดยจริงแแล้ว เป็นการตอบสนองของร่างกาย
- เวียนหัว เหงื่อออก มือสั่น → อาการเหล่านี้เกิดจากระบบประสาทถูกกระตุ้นเกินกว่าปกติ
- รู้สึกหลุดออกจากความเป็นจริง → เหมือนตัวเองไม่อยู่ในร่างกาย หรือสิ่งรอบข้างไม่เหมือนเดิม
- เกิดความคิดว่าจะเสียชีวิตหรือควบคุมตนเองไม่ได้ → ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่ผู้แพนิคหลายคนบอกตรงกัน
สาเหตุของโรคแพนิค
โรคแพนิคเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น
- พันธุกรรม → หากมีคนในครอบครัวเคยมีภาวะวิตกกังวลหรือแพนิค ความเสี่ยงก็อาจเพิ่มขึ้น
- สมดุลเคมีในสมอง → การทำงานที่ผิดปกติของสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนินและนอร์อิพิเนฟริน
- ประสบการณ์ในชีวิต → การเจอเหตุการณ์เครียดรุนแรงหรือสะเทือนใจ เช่น อุบัติเหตุ การสูญเสีย
- สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม → การพักผ่อนน้อย ดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์มากเกินไป ล้วนกระตุ้นให้อาการแพนิคเกิดได้ง่ายขึ้น
วิธีรับมือเมื่อเกิดอาการแพนิค
การเผชิญอาการแพนิค อาจทำให้หลายคนรู้สึกหมดหนทางและควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วมีวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ เช่น
- โฟกัสกับการหายใจ → สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนออกช้า ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายกลับมาสงบ
- ย้ำกับตัวเองว่าอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น → การบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “นี่คืออาการแพนิค ไม่ใช่โรคหัวใจ” จะช่วยลดความกลัวลงได้
- ใช้ประสาทสัมผัสดึงตัวเองกลับสู่ปัจจุบัน → เช่น มองรอบ ๆ ฟังเสียง หรือสัมผัสสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว
- บอกเล่ากับคนใกล้ชิด → การมีใครสักคนที่เข้าใจอยู่ข้าง ๆ จะทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
แนวทางการรักษาโรคแพนิค
โรคแพนิคสามารถรักษาและควบคุมได้ โดยแพทย์อาจใช้วิธีผสมผสานเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละคน เช่น
- (CBT) → การพูดคุยเพื่อปรับความคิดและพฤติกรรมที่กระตุ้นอาการ
- การใช้ยา → เช่น ยาคลายกังวล หรือยาต้านซึมเศร้า ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์
- การปรับพฤติกรรมชีวิตประจำวัน → นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
- การเรียนรู้เทคนิคผ่อนคลาย → เช่น โยคะ สมาธิ หรือการฝึกหายใจ
หากกังวลว่าเราอาจกำลังเข้าข่าย “โรคแพนิค” สามารถทำอย่างไรได้บ้าง
หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจมีอาการแพนิค สิ่งแรกที่ควรทำคือการเปิดใจยอมรับและสังเกตตัวเอง การไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและหาทางออกที่ตรงจุด
- หากพบว่าไม่ใช่โรคแพนิค ก็จะได้ความสบายใจ
- หากเป็นจริง ก็จะได้เริ่มการดูแลก่อนที่อาการจะเรื้อรัง
เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน โรคแพนิคอาจส่งผลเสียในระยะยาว เช่น การหลีกเลี่ยงสังคม ความสัมพันธ์ที่เปราะบาง หรือคุณภาพชีวิตที่ลดลง
โรคแพนิคคือปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข และเรา “หวังดี คลินิก” พร้อมให้คำปรึกษาและการดูแลอย่างถูกต้อง
การดูแลสุขภาพจิตไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว หากคุณหรือคนใกล้ชิดกำลังเจอภาวะแพนิค อย่าลังเลที่จะมองหาความช่วยเหลือ เพราะการได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญคือการเริ่มต้นดูแลสุขภาพใจที่ดีที่สุด
หวังดี คลินิก มีบริการ ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นการพูดคุยผ่านออนไลน์ และยังมีทีม จิตแพทย์ เชียงใหม่ ที่พร้อมดูแลทั้งปัญหาโรคแพนิค ภาวะวิตกกังวล รวมถึงการนอนไม่หลับ เพื่อให้คุณก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้