โรคซึมเศร้า รู้ทันอันตรายที่กำลังคุกคามผู้คนในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน เมื่อพูดถึงโรคซึมเศร้า สิ่งนี้กำลังกลายเป็นปัญหาใกล้ตัวมากกว่าที่หลายคนคิด
เพราะในปัจจุบันนั้นโรคซึมเศร้าเพราะโรคซึมเศร้านั้น ไม่เพียงแต่กระทบกับชีวิตส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังค่อย ๆ ซึมลึกเข้าสู่ทุกแง่มุมของสังคม ทั้งเรื่องงาน ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ต้องเร่งรีบ การใช้เวลาทุกมิติที่มีการแข่งขันสูง และสังคมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังต่อคน ๆ หนึ่ง กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นโดยที่ใครหลาย ๆ คน ไม่ทันรู้ตัว
หลายครั้งผู้ที่มีภาวะโรคซึมเศร้าอาจจะไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นว่า “กำลังเศร้า” อย่างที่คนรอบข้างเข้าใจ นั่นคือสิ่งที่ทำให้โรคซึมเศร้าเป็นสิ่งที่อันตราย เพราะสิ่งนั้นอาจจะไม่ได้แสดงออก แต่กับแฝงตัวอยู่กับความรู้สึก “เครียด” แบบธรรมดาทั่วไป โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นจนกลายเป็นภาวะที่อันตรายในที่สุด
โดย โรคซึมเศร้า นั้นไม่เลือกเพศ วัย หรืออาชีพ สามารถเกิดกับใครก็ได้ แม้กระทั่งคนที่ดูเข้มแข็งที่สุดก็ตาม
สัญญาณเตือนโรคซึมเศร้า อาการเป็นอย่างไร ?
การรู้ทันสัญญาณของโรคซึมเศร้า ช่วยให้เราหรือคนใกล้ชิดสามารถรับมือได้เร็วขึ้น เพราะโรคซึมเศร้ามักเริ่มต้นจากสัญญาณเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่หากปล่อยไว้นาน โรคซึมเศร้าอาจลุกลามจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน และส่งผลกระทบระยะยาว
- อารมณ์หม่นหมอง และเศร้าเป็นเวลานาน
โรคซึมเศร้าอาจเริ่มจากความรู้สึกเศร้า ซึม หรือความรู้สึกที่ว่างเปล่าที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ติดต่อกันนานเกิน - หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ
โรคซึมเศร้าอาจทำให้คน ๆ หนึ่ง ไม่รู้สึกอยากทำกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น แม้จะเป็นสิ่งที่เคยสร้างความสุขอย่างงานอดิเรก หรือความชอบส่วนบุคคล - เกิดภาวะน้ำหนักลดหรือเพิ่มอย่างผิดปกติ
ส่งผลให้ความอยากอาหาร เพิ่มหรือลด อย่างผิดปกติ
- ร่างกายอ่อนเพลีย รู้สึกไม่สดชื่นตลอดเวลา
ความเหนื่อยล้าเรื้อรังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของโรคซึมเศร้า - เกิดความรู้สึกว่า “ไร้ค่า” หรือโทษตัวเองตลอดเวลา
คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักมีความคิดด้านลบกับตัวเองมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่อันตรายอย่างมาก
สาเหตุ และความเสี่ยงของการเกิดโรคซึมเศร้าอะไร?
โรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุผลเดียว แต่เป็นผลสะสมจากหลายปัจจัย ทั้งจากภายในตัวเรา และจากภายนอกที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ปัจจัยที่ทำให้โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกาย เช่น ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง หรือระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะควบคุม
ในขณะเดียวกัน โรคซึมเศร้ายังสามารถเกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ชีวิต เช่น การสูญเสียคนที่รัก การโดนทำร้ายทางร่างกายหรือทางจิตใจ หรือการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความกดดัน เมื่อปัจจัยเหล่านี้รวมกัน ก็ทำให้หลายคนตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าได้โดยไม่รู้ตัว และคำถามที่พบบ่อยคือ “ซึมเศร้าเกิดจากอะไร” คำตอบคือ เกิดจากทั้งสิ่งที่ควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้ ซึ่งต่างกันไปในแต่ละบุคคล
โรคซึมเศร้า มีผลกระทบอะไรบ้าง?
โรคซึมเศร้าไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์ แต่สามารถส่งผลกระทบทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคมในหลายระดับ ผลของโรคซึมเศร้าอาจเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ อย่างเช่น สมาธิลดลงหรือรู้สึกเฉื่อยชาจนส่งผลต่อชีวิตประจำวันทั่วไป จนลามไปสู่ปัญหาหนัก เช่น การหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ ปัญหาชีวิตคู่ หรือหมดความหวังในชีวิต
- ผลกระทบทางตรง: โรคซึมเศร้าอาจทำให้คุณ นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะนอนดึก ตื่นกลางดึก หรือรู้สึกไม่สดชื่นแม้จะนอนครบชั่วโมง โรคซึมเศร้ายังส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้เจ็บป่วยง่ายขึ้น
- ผลกระทบทางอ้อม: โรคซึมเศร้าสามารถบั่นทอนความสัมพันธ์ ความสามารถในการทำงาน และคุณภาพชีวิตโดยรวม จนเกิดเป็น ปัญหาสุขภาพจิต เรื้อรังในระยะยาว
ป้องกันความเสี่ยงจากโรคซึมเศร้าได้อย่างไร?
แม้โรคซึมเศร้าจะมีปัจจัยหลายด้าน แต่ก็มีวิธีดูแลตัวเองที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างเป็นรูปธรรม หากรู้จักการคอยดูแล “หัวใจ” ให้ดี
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เพราะกลไกจากการเคลื่อนไหวร่างกาย และการออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นสารเคมีในสมองที่ช่วยลดโรคซึมเศร้าได้ - นอนหลับให้เพียงพอ และมีคุณภาพ
การพักผ่อนที่ดีช่วยลดความเสี่ยงของโรคซึมเศร้าในระยะยาว - ลดการดูสื่อที่กระตุ้นอารมณ์ลบ
เลือกดูเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจแทน เนื้อหาที่ทำให้รู้สึกเศร้าหรือหดหู่ - พูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้
อย่าเก็บปัญหาไว้เพียงลำพัง เพราะโรคซึมเศร้ามักแย่ลงเมื่อความคิดไม่ได้ถูกระบายหรือสะท้อนออกมา - จดบันทึกความรู้สึกเพื่อเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
การจดบันทึกความรู้สึก จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเอง และสังเกตอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น
โรคซึมเศร้าอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เสมอไปในหลายจังหวะของชีวิต แต่ด้วยการดูแลใจอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถป้องกันความเสี่ยงและลดโอกาสเกิดโรคซึมเศร้าได้
หากสงสัยว่าตนเองกำลังเสี่ยงภาวะโรคซึมเศร้า ควรทำอย่างไร
สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อสงสัยว่าตัวเองอาจกำลังเผชิญกับโรคซึมเศร้าคือ “อย่าปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง” เพราะโรคซึมเศร้าไม่ได้แปลว่าคุณอ่อนแอ แต่แปลว่าคุณควรได้รับการดูแลในเวลาที่เหมาะสม โรคซึมเศร้าเป็นเรื่องของสมดุลทางอารมณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ ไม่ใช่เรื่องของความล้มเหลวที่ควรโดนตีตรา
โดยหลังจากการทำความเข้าใจสภาวะอารมณ์ของตนเองแล้วนั้น การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยา หรือ การปรึกษาจิตแพทย์ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา เพราะโรคซึมเศร้าไม่ควรถูกตีตราว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งที่สามารถดูแลและรักษาได้เหมือนปัญหาสุขภาพทั่วๆ ไป
หวังดีคลินิก คลินิกจิตเวช ให้คำปรึกษา และช่วยเหลือเพื่อให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง
หวังดีคลินิก เข้าใจถึงความสำคัญของปัญหาโรคซึมเศร้า ที่กำลังคุกคามชีวิตผู้คนอย่างมากในปัจจุบัน การทำความเข้าใจโรคซึมเศร้าอาจดูซับซ้อนในบางมิติ แต่หากได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถก้าวข้ามผ่านช่วงเวลายากลำบากไปได้
หวังดีคลินิก เราเป็นคลินิก จิตแพทย์ เชียงใหม่ ที่พร้อมรองรับทุกท่านเพื่อสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย รวมถึงเรายังมีการให้บริการ ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง พร้อมดูแลรักษาอย่างเข้าใจ
หวังดี คลินิก “พื้นที่ปลอดภัย เพื่อสุขภาพใจของทุกคน”
📞 สอบถาม-ติดต่อ: 064-916-3654